วันอาทิตย์

อาวุธพระพุทธเจ้า





พุทธประวัติกล่าวไว้ชัดเจนว่า..

วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำกลางเดือน 6 เมื่อ 2605 ปีที่แล้ว..

เจ้าชายสิทธัตถะชนะพญามารด้วยบารมี 30 ทัศ..

ที่สั่งสมมาตลอด 20 อสงไขยแสนมหากัป.. มีทานบารมีเป็นต้น


หลังจากที่ทรงตรัสรู้แล้ว..

ก็ออกเผยแผ่พระศาสนาตลอดพระชมม์ชีพ..

และตลอดระยะเวลา 45 ปีในการโปรดสัตว์โลก..

ย่อมต้อง"ผจญมาร"เล็กบ้างใหญ่บ้างเป็นธรรมดา


แต่พระองค์ก็ทรงชนะได้ด้วยดีเสมอมา..

จนสามารถปักหลักพระพุทธศาสนา..

ด้วยพระธรรมเทศนาที่เป็น"สัจธรรม"ของชีวิต..

ยังความศรัทธาให้เกิดขึ้นแก่หมู่ชนเป็นจำนวนมาก


ทรงใช้หลากหลายวิธีในการแก้ปัญหา..

ซึ่งนอกเหนือจากพระปัญญาธิคุณอันเลิศแล้ว..

ก็มีด้วย"ขันติธรรม"และ"เมตตาธรรม"

แต่ไม่เคยมีซักครั้งเลย..

ที่พระองค์ทรงชนะด้วยความรุนแรงและอารมณ์.!!!!


พ.พเนจร


วันเสาร์

เล่นกับไฟ




ข่าว"พระดัง"ในอดีตหลายๆรูปที่ผ่านมา..

ได้สร้างกระแสตื่นตัวขึ้นแก่พุทธศาสนิกชน..

ดูเหมือนว่าจะเป็นการปกป้องพระพุทธศาสนา..

ช่วยกันขจัดภัยร้ายที่บ่อนทำลายศรัทธาของสาธุชน


ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว..

ท่าน"ทั้งหลาย"เหล่านั้นเมื่อผ่านการพิสูจน์ในชั้นศาลแล้ว..

แทบทั้งหมดถูกตัดสินว่าเป็นผู้"บริสุทธิ์"

แต่ก็ไม่เคยมีข่าวปรากฎสู่สายตาประชาชน..

และทำให้ไม่สามารถกู้ชื่อเสียงกลับคืนมาได้.!!!


ก็ต้องทำใจว่ามันเป็น"กรรมเก่า"ของท่าน

ได้แต่เสียดายตรงที่ว่า..

หากท่านยังสามารถครองเพศสมณะอยู่..

คงสร้างประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาได้อีกมาก.!!!


ส่วน"ญาติโยม"ที่ติดตามข่าวจากสื่อทั้งหลาย..

ไม่ว่าจะโทรทัศน์.. วิทยุ.. หรือตามหน้าหนังสือพิมพ์..

แถมในปัจจุบันยังเพิ่มโลกออนไลน์ "โซเชียลมีเดีย"

ซึ่งส่งข่าวได้เร็วได้ไว แถม"แชร์"ก็แสนจะง่าย..

เข้าถึงชนทุกกลุ่มทุกวัยและทุกสถานที่


เมื่อรับไวก็ส่งไว.. จนเลยขั้นตอนของการ"พิจารณา"

ย่ิง"ดราม่า"มากเท่าไร.. ก็ยิ่งไปได้ไวขึ้นเท่านั้น

จนบางครั้ง"หลงลืม"ไปว่า.. กำลังเล่นกับไฟ.!!!!

เพราะหากข้อ"เท็จจริง"มิใช่ข้อ"แท้จริง"แล้วไซร้

คำพูดใดๆที่กล่าวออกไป.. มันก็คือ"กรรมใหม่"ของเรา

และจะเป็น"วิบาก"ติดตามเราไปตลอดกาลนานทีเดียว.!!!!


พ.พเนจร


วันศุกร์

มืออาชีพ





ดูรายการข่าวไทยรัฐทีวีช่อง 32..

ตีแสกหน้า..โดยคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์..

กับขีดเส้นใต้เมืองไทย.. ของคุณสุภาพ คลี่ขจาย..

เห็นได้ถึงความแตกต่างของ"มืออาชีพ"


ทั้งคู่พูดเรื่องเดียวกันคือการบุกธรรมกาย..

เพียงแต่"ชูวิทย์"พูดแสดงความเห็นแบบคนกลาง..

มีทั้งได้มีทั้งเสียของ"ยุทธการ"ตรวจค้นครั้งนี้..

ชี้ให้เห็นข้อดีข้อด้อยของทางวัดและทางรัฐ


แต่"สุภาพ"ที่ดำเนินรายการแบบไม่ค่อยจะสุภาพ..

ตั้งแต่การนำ"มโน เลาหวณิช"

ซึ่งใครก็รู้กันไปทั่วว่าคือ.. ศิษย์ล้างครู

มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ


แต่ละคำถามที่ป้อนใส่ปากของมโน..

ล้วนแล้วแต่ต้องการ"ชี้นำ"สังคมให้มองด้านเดียว..

ซึ่งมโนเองก็พร้อมที่จะ"ปั้นเรื่อง"ไปตามถนัดอยู่แล้ว..

เพราะเรื่อง"แก้แค้น"ธรรมกายจะมีใครถนัดไปกว่าเขา


น่าเสียดายรายการดีๆของไทยรัฐทีวี..

ที่ช่องข่าวสามารถผงาดขึ้นมาจนเป็นอันดับต้นๆ..

แต่ต้องมาเจอพิธีกรที่มีความ"ลำเอียง"ในการจัดรายการ..

ทำให้เสียอรรถรสในการรับชมและความชื่นชมที่มีไปไม่น้อย


พ.พเนจร

วันพฤหัสบดี

เอาดีเข้าตัว






ผ่านมายังไม่ถึงอาทิตย์..

จากวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา"มาฆบูชา"

ที่"วันนั้น"ได้ถึงพร้อมด้วยองค์ 4 ประการ..

มีพระอรหันต์มาประชุมกัน 1250 รูป..

โดยมิได้นัดหมาย ณ. เวฬุวันเวลาตะวันบ่าย


16 กุมภาพันธ์ 2560..

DSI พร้อมตำราจ และ ทหารไทย 3,000 นาย..

ปิดล้อมวัดพระธรรมกายเพื่อจับพระภิกษุชราและอาพาธ..

ซึ่งนัดหมายกันมาตั้งแต่ 03.00 นาฬิกาของวันใหม่..

โดยคำร้องขอของอธิบดี DSI "ไพสิฐ วงศ์เมือง"กับ ม.44


เพียงขอให้"หลวงพ่อ"เข้ามอบตัว..

เพื่อสร้างบรรทัดฐานในอนาคตว่าพระรับบริจาคก็ผิดได้.!!!

โดยมิได้ย้อนมองดูการกระทำของตัวเลยว่า..

เพียงท่านทำคดีให้ตรงไปตรงมา..ไม่"ลับลมคมใน"

เหตุการณ์ก็คงไม่บานปลายมาถึงวันนี้อย่างแน่นอน.!!!!


พ.พเนจร